โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
กรอกข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ CLICK
ฮีตเตอร์ (Heater) คือ อุปกรณ์ให้ความร้อนแก่ชิ้นงานโดยอาศัยหลักการนำพาความร้อนโดยผ่านขดลวดตัวนำ (R) ทำให้เกิดกระแสขึ้น ในปัจจุบันมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในภาคอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมอาหาร, อุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น งานอบสี, บรรจุภัณฑ์, งานขึ้นรูปพลาสติก เป็นต้น โดยฮีตเตอร์ที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมทั่วไปแบ่งออกเป็นประเภทตามการใช้งาน ดังนี้
โดยในการใช้งานฮีตเตอร์ (Heater) ประเภทต่าง ๆ จะต้องมีการออกแบบให้เหมาะสมกับงานนั้น ๆ โดยมีองค์ประกอบพื้นฐานเบื้องต้น เช่น ขนาดของฮีตเตอร์ (W*H) / ขนาดท่อ (Tube), แรงดันไฟฟ้า (Volt), กำลังวัตต์ (Watt) เป็นต้น (ขึ้นอยู่กับประเภทของฮีตเตอร์) และถ้ามีการบำรุงรักษาที่ถูกวิธีจะทำให้ฮีตเตอร์ (Heater) ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ แต่บ่อยครั้งที่ผู้ใช้งานมักจะพบปัญหาอายุการใช้งานของฮีตเตอร์ที่สั้นผิดปกติหรือขาดบ่อยโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือฮีตเตอร์ขาดอันเนื่องมาจากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้
• การจ่ายแรงดันไฟฟ้าที่ไม่เหมาะสม เช่น ฮีตเตอร์ 220V จ่ายแรงดัน 380V ทำให้เสียหาย
• การเลือกใช้วัสดุที่ไม่เหมาะสมกับงาน เช่น ฮีตเตอร์ต้มน้ำ (Immersion Heater) นำไปใช้งานกับน้ำที่มีสารเคมี แต่เลือกใช้วัสดุที่ไม่สามารถทนต่อสารเคมีได้ เช่น สแตนเลส SUS304 เป็นต้น
ดังนั้นในบทความนี้ผู้บรรยายจึงขอแนะนำอุปกรณ์ที่จะช่วยให้ทางผู้ใช้งานทราบการแจ้งเตือนการขาดของฮีตเตอร์ (Heater) ก่อนที่จะส่งผลเสียให้ชิ้นงานหรือผลิตภัณฑ์เสียหาย ในหัวข้อ “แจ้งเตือนก่อนชิ้นงานมีปัญหาด้วยอุปกรณ์เช็คฮีตเตอร์ขาด (Heater Break Alarm)” เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับแจ้งเตือนฮีตเตอร์ขาด (Heater Break Alarm) โดยเฉพาะ เพื่อแจ้งให้ผู้ปฏิบัติงานทราบถึงความผิดปกติของฮีตเตอร์ (Heater) ก่อนที่จะทำให้สินค้าหรือไลน์การผลิตเกิดความเสียหาย โดยใช้หลักการของการเช็คกระแสของฮีตเตอร์ (Heater) แต่ละตัว โดยมีวิธีการเช็คดังตัวอย่างต่อไปนี้
ตัวอย่างการต่อใช้งานอุปกรณ์แจ้งเตือนฮีตเตอร์ขาด รุ่น CM-005N-4CH (Heater Break Alarm) Input 4 Ch.
ต่อร่วมกับอุปกรณ์แสดงผลค่ากระแสและสถานะของฮีตเตอร์ รุ่น CM-005DN (Digital Monitor for Heater Break Alarm)
1. ป้องกันชิ้นงานเสียหายอันเนื่องจากฮีตเตอร์ชำรุด ในกรณีที่ผู้ใช้งานฮีตเตอร์จำนวนหลายตัวในเครื่องเดียวในการให้ความร้อนกับชิ้นงาน
3. เพิ่มอายุการใช้งานของฮีตเตอร์ เช่น ในกรณีที่มีฮีตเตอร์ (Heater) ตัวใดตัวหนึ่งขาด คุณจะไม่สามารถทราบเลยว่ามีฮีตเตอร์ (Heater) ขาดเกิดขึ้น เพราะเนื่องจากอุณหภูมิที่ได้นั้นยังมีค่าเท่าเดิม แต่ผลลัพธ์คือการทำงานของฮีตเตอร์ตัวที่ใช้ได้มีการทำงานหนักขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้อายุการใช้งานของฮีตเตอร์ (Heater) สั้นลง
4. ประหยัดเวลาในการตรวจเช็ค เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับเครื่องจักรและผู้ปฏิบัติงาน ไม่ต้องเสียเวลาในการตรวจเช็คความผิดปกติของฮีตเตอร์ (Heater) ให้ยุ่งยากเพราะสามารถดูได้จาก LED ที่กระพริบ หรือดูจาก Monitor ได้เลย
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้งาน
เครื่องขึ้นรูปพลาสติก |
ห้องอบสี |
เครื่องฉีดพลาสติก |
|
|
|
โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
กรอกข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ CLICK